วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

หุ้น HFT ยางรถ

 


หุ้น HFT


หุ้น HFT หรือ Hwa Fong Rubber Thailand PCL เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาง


จำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาง เช่น ยางรถจักรยานยนต์ ยางรถจักรยาน และยางรถอุตสาหกรรม


ชื่อเต็ม: บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)


ก่อตั้ง: ปี 1987


ที่ตั้งสำนักงานใหญ่: นิคมอุตสาหกรรมบางปู ถนนสุขุมวิท กรุงเทพฯ ประเทศไทย


ลักษณะผลิตภัณฑ์หรือบริการ


บริษัทประกอบธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายยางใน ยางนอก และผลิตภัณฑ์จักรยาน ดังนี้


- ยางจักรยานทั่วไป เช่น จักรยานเสือภูเขา รถเข็น เป็นต้น


- ยางรถจักรยานยนต์ เช่น รถจักรยานยนต์ทั่วไป มอเตอร์ไซค์ความเร็วสูง สกู๊ตเตอร์ มอเตอร์ครอส


- ยางสำหรับยานพาหนะขนส่งขนาดเล็ก เช่น รถเข็น รถยก รถแทรกเตอร์ ตุ๊กตุ๊ก รถเกษตร รถกอล์ฟ


- ยางสำหรับชายหาดและปีนเขา


- จักรยานเสือหมอบ จักรยานเสือภูเขา


ปัจจุบันการผลิตยางรถจักรยานยนต์ บริษัทได้รับสิทธิพิเศษจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)


โดยมีกำลังการผลิต 3.159 ล้านเส้นต่อปี 


ผลิตภัณฑ์ยางรถจักรยานยนต์


- ยางเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าการขายสูงสุดของบริษัททั้งในประเทศและต่างประเทศ 


ผลิตภัณฑ์ยางในรถบรรทุกขนาดเล็ก

- มีขนาดและประเภทต่างๆ มากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก 

อื่นๆ (วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป แม่พิมพ์ ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์)


บริษัท ฮัวฟงรับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) “HFT” ก่อตั้งเมื่อปี 2530


ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 658,434,300 บาท และทุนชำระแล้ว 658,434,300 บาท


ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์และยางในคุณภาพสูงสำหรับรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ 


และยานพาหนะขนาดเล็ก เช่น รถเข็น รถยก รถลาก รถกอล์ฟ และยานพาหนะที่ใช้ในการปีนเขา


ภูเขาและชายหาด เป็นต้น


มีความเชี่ยวชาญในการผลิตยางรถยนต์และยางในดังกล่าวมานานกว่า 37 ปี ผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ


Hwa Fong Rubber Industry Co., Ltd. “HFR” ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันมานานกว่า 30 ปี


เป็นผู้ผลิต ยางรถยนต์และยางในสำหรับรถจักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ และยานพาหนะอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียงในไต้หวัน


ได้รับการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและเครือข่ายการตลาดจากบริษัท ฮว่าฟงรับเบอร์ อินดัสทรี จำกัด


ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า DURO Q-UICK และ DUNLOP ซึ่งเป็นของ SUMITOMO RUBBER 


ประเทศญี่ปุ่น และเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ฮว่าฟงรับเบอร์ อินดัสทรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน


บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ในประเทศ 34.29% และรายได้ต่างประเทศ 65.71% สำหรับตลาดในประเทศ บริษัทฯ จำหน่าย


ผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ผลิต OEM


บริษัทมีฐานการผลิตในประเทศไทยและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังตลาดต่างประเทศ เช่น เอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา


การใช้ยางรถในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจโดยรวม 


ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่ของโลก และมีการใช้ยางในหลายรูปแบบ 


เช่น ยางรถยนต์ ยางรถจักรยานยนต์ และยางสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ


ลิ้งความรู้เพิ่มเติม

✅ ศัพท์ของหุ้น และการลงทุน 

✅ หนังสือ ตีแตก : กลยุทธ์การเล่นเหุ้นในภาวะวิกฤต โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

✅ 5 Steps เทรดหุ้น จากเริ่มต้น จนเทรดเป็น

✅ วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ กับศิลปะแห่งการค้ากำไรหุ้น

 SET Index คือ 

////











วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

หุ้นน้ำมันปาล์ม ไทย มีตัวไหนบ้าง

 


หุ้นน้ำมันปาล์ม ไทย มีตัวไหนบ้าง


ในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นน้ำมันปาล์มหลายตัวที่น่าสนใจ เช่น 


PCE (เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์)


VPO (วิจิตรภัณฑ์ปาล์มออยล์)


APO (เอเชียนน้ำมันปาล์ม)


UVAN (ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม)


CPI (ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม)


LST (ล่ำสูง (ประเทศไทย))


หุ้นเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันปาล์ม ซึ่งส่งผลต่อรายได้และกำไรของบริษัท


หุ้นน้ำมันปาล์ม ได้รับอิทธิพลจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลก


อุตสาหกรรมนี้ยังได้รับผลกระทบจากนโยบายภาครัฐเกี่ยวกับพลังงานทดแทน เช่น ไบโอดีเซล




แนวโน้มของหุ้นน้ำมันปาล์มในไทยในช่วงปี 2568-2570 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง 


ปัจจัยที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมนี้ ได้แก่


อุปทานเพิ่มขึ้น: ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะภาคใต้ของไทย.


อุปสงค์เร่งตัวขึ้น: ความต้องการใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เคมีภัณฑ์ และไบโอดีเซลมีแนวโน้มเติบโต

ตามเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว.


ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น 


มาตรการภาครัฐ: การส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลและการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลที่รองรับน้ำมันดีเซล

ที่มีสัดส่วนไบโอดีเซลสูงขึ้น.


การแข่งขันแย่งชิงวัตถุดิบ จากโรงงานสกัดอาจกดดันต้นทุนการผลิต อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม

ในไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง


ประเทศไทยยังมุ่งเน้นการพัฒนาน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน โดยมีการส่งเสริมมาตรฐาน RSPO

(Roundtable on Sustainable Palm Oil)  เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก



น้ำมันปาล์มไทยมีบทบาทสำคัญในตลาดโลก โดยเฉพาะด้าน การส่งออกแต่ก็ต้องเผชิญกับ

ความท้าทายด้านกฎระเบียบและการแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง อินโดนีเซียและมาเลเซีย



ความต้องการน้ำมันปาล์มในตลาดโลกมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญที่ผลักดัน ได้แก่


อุตสาหกรรมอาหาร: น้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบหลักในอาหารแปรรูป เช่น ขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ 


ทำให้มีความต้องการสูงจากประเทศผู้บริโภคหลัก เช่น จีนและอินเดีย.


พลังงานชีวภาพ: หลายประเทศกำลังเพิ่มสัดส่วนไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซล เช่น อินโดนีเซีย

ที่มีนโยบาย B40 ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการน้ำมันปาล์มดิบ.


มาตรฐานความยั่งยืน: ตลาดยุโรปกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม เช่น EUDR 

(European Union Deforestation Regulation) ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับตัวเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด.


ผลกระทบจากเอลนีโญ: อาจทำให้ผลผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มปรับตัวสูงขึ้นในตลาดโลก


ยังไม่นับรวม มาตรการกีดกันทางการค้า และ การแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตรายใหญ่